{وَأَحْسِنُوَاْ إِنَّ اللّهَ يُحِبُّ الْمُحْسِنِينَ }

ความว่า และจงทำดีเถิด แท้จริงอัลลอฮฺ นั้นทรงชอบผู้กระทำดีทั้งหลาย (อัลบะเกาะเราะฮฺ : 195)




2/23/2555

สิทธิของผู้ปกครองและผู้อยู่ภายใต้การปกครอง

อัลหัมดุลิลล่าฮฺ ขอชุโกรต่ออัลลอฮ์ (สุบหฺฯ) ที่ทรงประทานอีมาน อิสลาม ชีวิตและลมหายใจให้เราทุกคนได้มีโอกาสทำในสิ่งที่ดีงาม และคาดหวังการตอบแทนผลงานจากพระองค์ ขอทรงโปรดประทานความสำเร็จทั้งในโลกนี้และโลกหน้า และทรงโปรดอภัยความผิดที่ล่วงกระทำไปโดยเจตนาและที่พลาดพลั้งไปโดยขาดการยับยั้งชั่งใจ อันเกิดจากการหลงตามชัยตอนมารร้ายและอารมณ์ใฝ่ต่ำ แก่ผู้เขียน ผู้อ่าน ครอบครัว ญาติพี่น้อง และมิตรสหาย ตลอดจนพี่น้องมุสลิมทั้งมวล ด้วยเทอญ

ขอเศาะละวาต (สดุดี) แด่ท่านเราะสูล (ศ็อลฯ) นายแห่งบรรดาศาสนทูตทั้งหลาย ผู้ทรงแบกรับภาระกิจที่ยิ่งใหญ่ ในการนำพาประชาติทั้งมวลสู่หนทางแห่งสัจธรรม และทรงได้รับสิทธิพิเศษ โดยเป็นที่รักเหนือบรรดามัคฺลูกฺใดๆ (สิ่งที่ถูกสร้าง) ณ ที่อัลลอฮฺ (สุบหฺฯ) ดังหลักฐานปรากฎในสูเราะฮฺ อัล ฟะตฮฺ อายะฮฺ ที่ 8-9

{ إِنَّا أَرْسَلْنَاكَ شَاهِدًا وَمُبَشِّرًا وَنَذِيرًا . لِتُؤْمِنُوا بِاللَّهِ وَرَسُولِهِ وَتُعَزِّرُوهُ وَتُوَقِّرُوهُ وَتُسَبِّحُوهُ بُكْرَةً وَأَصِيلًا . } (الفتح : 8-9)

ความว่า “แท้จริงเราได้ส่งเจ้า(มุฮัมมัด)มาเพื่อเป็นพยานและผู้แจ้งข่าวดีและผู้แจ้งข่าวร้าย เพื่อให้พวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และเราะสูลของพระองค์ และให้ความช่วยเหลือเขา (เราะสูล) และแซ่ซ้องสดุดีพระองค์ทั้งในยามเช้าและยามเย็น[1]

จากทั้งสองอายะฮฺนี้ ยิ่งทำให้เราได้ตระหนักดีว่า มนุษย์ทุกคนต้องมอบความรักต่อท่านเราะสูล (ศ็อลฯ) มากกว่ามัคลูกๆ อันเป็นที่รักของเขา ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของเขา ลูก หรือผู้ให้กำเนิดก็ตาม ดังบันทึกของท่านอิมามอัลบุคอรีย์และอิมามมุสลิม ท่านเราะสูล (ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า

(( لا يؤمنُ أَحَدُكم حتى أكونَ أَحَبَّ إليه من وَالدِهِ وَوَلَدِه والناسِ أَجْمَعِين))

ความว่า “คนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านจะยังไม่ศรัทธาจนกว่าฉันจะเป็นที่รักของเขามากกว่าพ่อแม่ ลูก และมนุษย์ทุกคน”

พี่น้องผู้อ่านครับ บทความนี้ ผมจะขอพูดถึงสิทธิของผู้ปกครองและผู้ใต้การปกครอง เนื่องจากเป็นเรื่องที่เราทั้งหลายต้องเร่งรีบทำความเข้าใจถึงบทบาท หน้าที่ที่ต้องกระทำ และสิทธิที่พึงได้รับ เพื่อป้องกันสาเหตุที่จะนำไปสู่ความล้มเหลวของประเทศ สังคม องค์กร หรือกลุ่ม หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยแก่ผู้เกี่ยวข้องและมีความสนใจ

ผมได้มีโอกาสอ่านหนังสือเล็กๆเล่มหนึ่ง ชื่อหนังสือว่า (حقوق دعت اليها الفطرة وقررتها الشريعة) “บรรดาสิทธิ (สิ่งที่)ฟิฎเราะฮฺเรียกร้องหา และชะรีอะฮ์ได้กำหนด(มัน)เอาไว้” ของ ฯพณฯ ท่าน เช็ค มุหัมมัด ศอลิหฺ อัลอุษัยมีน (เราะหิมะฮุลลอฮ์) จัดพิมพ์ครั้งที่ 9 ในปี 2009 (ฮิจเราะฮฺศักราชที่ 1430) โดยสถาบันวิจัยค้นคว้าทางวิชาการและการวินิจฉัยข้อชี้ขาด อัรริญาด ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย

สิ่งที่น่าสนใจจากหนังสือเล่มนี้ คือ การนำเอาหลักฐานจากอัลกุรอานและอัลหะดีษ มาแสดงให้เห็นถึงสิทธิต่างๆที่เกี่ยวข้องกับผู้สร้างและผู้ถูกสร้าง โดยตอบสนองต่อฟิฏเราะฮฺ (กมลสันดาน)และเป็นไปตามหลักชะรีอะฮฺ (หลักศาสนบัญญัติ) จำแนกได้ 10 สิทธิ ได้แก่ 1)สิทธิของอัลลอฮฺ (สุบหฺฯ) 2)สิทธิของท่านเราะสูล (ศ็อลฯ) 3)สิทธิของพ่อแม่ 4)สิทธิของลูกๆ 5)สิทธิของญาติพี่น้อง 6)สิทธิของสามีภารยา 7)สิทธิของผู้ปกครองและผู้อยู่ภายใต้การปกครอง 8)สิทธิของเพื่อนบ้าน 9)สิทธิของพี่น้องมุสลิม 10)สิทธิของผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม จากสิทธิทั้งหลาย ผู้เขียนได้เลือกสิทธิที่เจ็ดมาแปล เพื่อเป็นประโยชน์แพร่หลายต่อไป อินชาอัลลอฮฺ

สิทธิที่เจ็ด : สิทธิของผู้ปกครองและผู้อยู่ภายใต้การปกครอง

บรรดาผู้ปกครอง (الولاة) หมายถึง บรรดาบุคคลที่ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลกิจการงานต่างๆ ของมุสลิม ไม่ว่าจะมีลักษณะการปกครองทั่วไปก็ตาม เช่น นายกรัฐมนตรีหรือประธานาธิบดี ซึ่งอำนาจปกครองสูงสุดในประเทศ หรือแบบเจาะจงเฉพาะ เช่น ผู้บริหาร ผู้จัดการหรือผู้นำองค์กรหนึ่งๆ พวกเขาเหล่านี้มีสิทธิอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับจากผู้ใต้การปกครอง ขณะเดียวกันผู้ใต้การปกครองก็มีสิทธิที่จะต้องพึงได้รับจากผู้ปกครอง

ดังนั้น สิทธิของผู้อยู่ภายใต้การปกครองพึงได้รับจากผู้ปกครอง มีดังนี้ :

บรรดาผู้ปกครองทั้งหลายมีหน้าที่รักษาอะมานะฮฺ (ความรับผิดชอบ)ต่อผู้ใต้การปกครอง โดยต้องสำนึกว่า หน้าที่ดังกล่าวเป็นภาระที่จักต้องแบกรับและถูกสอบสวน ณ ที่อัลลอฮฺ (สุบหฯ) พวกเขาจะต้องตักเตือนผู้ใต้การปกครองและชี้นำทางที่ถูกต้อง และรับรองความปลอดภัยอันเกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ทั้งมวลในโลกนี้และโลกหน้าแก่ผู้ใต้การปกครอง ปฎิบัติตนตามวิธีการและวิถีทางของบรรดาผู้ศรัทธา ทางอันมีแบบอย่าง คือ ท่านเราะสูล (ศ็อลฯ)ซึ่งจะนำพาให้พบความสงบสุขแก่ผู้อยู่ภายใต้การปกครองหรือภายใต้อำนาจของพวกเขา นั่นหมายถึง การสร้างความริฎอ (พึงพอใจ) อีกทั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ทำให้ผู้ใต้การปกครองพร้อมน้อมรับและเชื่อฟังต่อคำสั่งใช้ของพวกเขา โดยพวกเขาเองก็รักษาอะมานะฮฺได้อย่างสมบูรณ์

ยิ่งไปกว่านั้น บุคคลใดที่ยำเกรงต่ออัลลอฮฺ (สุบหฺฯ) พระองค์ก็จะทรงบันดาลให้มนุษย์ยำเกรงต่อตัวเขา และบุคคลใดได้สร้างความความยินดีต่ออัลลอฮฺ (สุบหฺฯ) ก็เพียงพอที่เขาเองได้ให้ความพึงพอใจแก่เพื่อนมนุษย์ เนื่องจากว่า หัวใจทุกดวงอยู่ภายใต้เดชานุภาพของพระองค์ ผู้ทรงสามารถเปลี่ยนแปลงหัวใจดวงหนึ่งๆ ได้ตามที่พระองค์ทรงประสงค์

สำหรับสิทธิของผู้ปกครองพึงได้รับจากผู้อยู่ภายใต้การปกครอง มีดังนี้ :

บรรดาผู้ปกครอง (ผู้นำ) มีสิทธิในการได้รับการตักเตือนจากผู้อยู่ภายใต้การปกครอง ในกิจการงานที่พวกเขารับผิดชอบดำเนินการและดูแลให้แก่พี่น้องมุสลิม พวกเขามีสิทธิในการได้รับการย้ำเตือนตัวของพวกเขาในช่วงเวลาที่เพิกเฉยหรือละเลยต่ออะมานะฮฺ สิทธิในการขอดุอา (ขอพร) ให้พวกเขา เมื่อใดก็ตามที่หันเหจากทางที่ถูกต้อง และสิทธิในการได้รับการน้อมรับการสั่งใช้ของพวกเขาจากผู้อยู่ภายใต้การปกครอง หากการงานนั้นไม่ขัดแย้ง (ฝ่าฝืน) ต่ออัลลอฮฺ (สุบหฺฯ) เนื่องจากพวกเขาถือเป็นกลุ่มของผู้นำคำบัญชาและการจัดการระเบียบต่างๆ ดังนั้นเมื่อใดผู้อยู่ภายใต้การปกครองขัดแย้ง และฝ่าฝืนไม่น้อมรับ ภักดีต่อคำสั่งใช้แล้ว เมื่อนั้นความเสียหายและความล้มเหลวในกิจการงานต่างๆจะเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน

ดังกล่าว อัลลอฮฺ (สุบหฺฯ) ได้ทรงสั่งใช้ผู้ศรัทธาให้ฏออัต (ภักดี) ต่อพระองค์ เราะสูลของพระองค์ และบรรดาผู้ปกครองของพวกเขา

{ يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُواْ أَطِيعُواْ اللّهَ وَأَطِيعُواْ الرَّسُولَ وَأُوْلِي الأَمْرِ مِنكُمْ فَإِن تَنَازَعْتُمْ فِي شَيْءٍ فَرُدُّوهُ إِلَى اللّهِ وَالرَّسُولِ إِن كُنتُمْ تُؤْمِنُونَ بِاللّهِ وَالْيَوْمِ الآخِرِ ذَلِكَ خَيْرٌ وَأَحْسَنُ تَأْوِيلاً } (النساء:59)

ความว่า “ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังเราะสูลเถิด และผู้ปกครองในหมู่พวกเจ้า [2] ดังนั้นหากพวกเจ้าขัดแย้งกันในสิ่งใด ก็จงนำสิ่งนั่นกลับไปยังอัลลอฮฺ และเราะสูล [3]หากพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันอาคิเราะฮฺ นั่นแหละเป็นสิ่งที่ดียิ่งและเป็นการกลับไป [4]ที่สวยยิ่ง”

นอกจากนี้ สิทธิของผู้ปกครองพึงได้รับจากผู้อยู่ภายใต้การปกครอง คือ การได้รับความร่วมมือและความช่วยเหลือในกิจการงานของพวกเขาให้ดำเนินบรรลุสู่ความสำเร็จตามงานที่พวกเขาได้รับผิดชอบนั้นๆ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ทุกๆคน มีอะมานะฮฺ หน้าที่ต้องรับผิดชอบของตนเองในสังคม (อยู่แล้ว) และบรรดาผู้ปกครองเช่นกัน หากท่านไม่ให้การช่วยเหลือพวกเขา สิ่งที่ท่านคาดหวังจากพวกเขา อันหมายถึงภาระหน้าในการแบกรับกิจการงานต่างๆ ของทุกคน ย่อมไม่บรรลุตามเป้าประสงค์ที่ตั้งไว้

สรุปก็คือ "ในบางครั้งเราเรียกร้องแต่จะเอาสิทธิพึงได้รับกันอย่างเดียว แต่เราลืมไปว่าเราเองก็มีหน้าที่ต้องทำให้ได้ตามบทบาทของเรา บทบาท หน้าที่ และสิทธิ จึงเป็นคำสามคำที่น่าสนใจ และควรย้อนกลับมาไตร่ตรองคิดใคร่ครวญและย้ำเตือนกัน เพื่อให้สังคมมุสลิมเราได้ชื่อว่าเป็นแบบอย่างแก่ประชาชาติอื่นๆอย่างแท้จริง" ตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ (สุบหฺ) ที่ว่า

{ كُنتُمْ خَيْرَ أُمَّةٍ أُخْرِجَتْ لِلنَّاسِ تَأْمُرُونَ بِالْمَعْرُوفِ وَتَنْهَوْنَ عَنِ الْمُنكَرِ وَتُؤْمِنُونَ بِاللّهِ وَلَوْ آمَنَ أَهْلُ الْكِتَابِ لَكَانَ خَيْرًا لَّهُم مِّنْهُمُ الْمُؤْمِنُونَ وَأَكْثَرُهُمُ الْفَاسِقُونَ } (آل عمران : 110)

ความว่า “พวกเจ้านั้น [5]เป็นประชาชาติที่ดียิ่งซึ่งถูกให้อุบัติขึ้นสำหรับมนุษย์ชาติ โดยที่พวกเจ้าใช้ให้ปฏิบัติสิ่งที่ชอบ และห้ามมิให้ปฏิบัติสิ่งที่มิชอบ และศรัทธาต่ออัลลอฮ์ และถ้าหากว่าบรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์ [6]ศรัทธากันแล้ว แน่นอนมันก็เป็นการดีแก่พวกเขา จากพวกเขานั้นมีบรรดาผู้ที่ศรัทธา [7] และส่วนมากของพวกเขานั้นเป็นผู้ละเมิด”

อินชาอัลลอฮฺ ถ้ามีเวลาและโอกาสคงได้แปล สิทธิอื่นๆ ต่อไป

وصلى الله على سيدنا محمد وعلى آله وصحبه أجمعين

والحمد لله رب العالمين



[1] เราได้ส่งเจ้ามาเพื่อเป็นพยานแก่มนุษย์ในวันกิยามะฮฺ เป็นผู้แจ้งข่าวดีคือสวนสวรรค์แก่บรรดามุอฺมิน และเป็นผู้แจ้งข่าวร้ายแก่พวกปฏิเสธศรัทธาด้วยการลงโทษคือนรกญะฮันนัม เราได้ส่งเราะสูลมาเพื่อให้พวกเจ้าศรัทธาต่อพระเจ้าของพวกเจ้าและเราะสูลของพวกเจ้าด้วยการศรัทธาอย่างแท้จริง และให้ความช่วยเหลือและยกย่องให้เกียรติแก่เราะสูลของพระองค์

[2] บรรดาเจ้าหน้าที่ในหมู่พวกเจ้าที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครอง เมื่อเจ้าหน้าที่เหล่านั้นสั่งให้ทำสิ่งใดก็จงปฏิบัติตาม

[3] นำสิ่งที่ขัดแย้งกันนั้นไปตรวจสอบดูกับอัล-กุรอานและสุนนะฮ์ของท่านนะบีว่า อัลลอฮฺ (สุยหฺฯ) และท่านนะบีได้กล่าวว่าอย่างไร แล้วให้ยึดถือตามนั้นโดยปราศจากดื้อดึงใด ทั้งสิ้น

[4] กลับไปสู่ความจริงที่สวยงามยิ่ง เพราะจะทำให้ทุกฝ่าย ตั้งอยู่ในสิ่งที่ถูกต้อง และมีความพอใจโดยทั่วกัน

[5] หมายถึงบรรดาผู้ที่ศรัทธาต่อท่านนะบีมุฮัมมัด

[6] หมายถึงพวกยิวและคริสต์ มักจะเรียกทับศัพท์กันว่า พวกอะฮ์ลุลกิตาบ

[7] เช่นอับดุลลอฮ์ บินสะลาม และเพื่อนๆ ของท่านซึ่งเป็นชาวยิว และอันนะญาชีย์ และพรรคพวกของท่านซึ่งเป็นชาวคริสต์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น