السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮฺ (สุบหฺ) ขอเริ่มสิ่งดีงามด้วยกับพระองค์ และขอชุโกรที่พระองค์ทรงประทานสุขภาพที่ดี และเวลาว่าง ซึ่งทั้งสองถือเป็นเนี๊ยะมัตใหญ่หลวงสำหรับบ่าวของพระองค์
บรรยากาศของเดือนรอมฎอนที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอของการทำอามั้ลอิบาดะฮฺ ได้ผ่านไปแล้ว หลงเหลือแต่เพียงความรู้สึกนึกถึงและอยากหวนกลับมาอีกในปีหน้า แต่ก็ยังมีความประเสริฐของการถือศิลอดที่ยังหลงเหลืออยู่ให้ขวนขวาย สำหรับ หกวันในเดือนเชาว้าล หากแต่ความจริงแล้ว (รอมฎอนเป็นเดือนแห่งการทดสอบอีหม่านและท้าทายนัฟซูของเรา ) จากความต้องการต่างๆ นานา
อัลหัมดุลิลล่าฮฺ ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องถือศิลอดในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีอากาศร้อนเป็นตัวทดสอบนัฟซู และความกระหาย แต่คนที่นี้ก็มีวิธีหลบร้อนได้ดี เนื่องจากเกือบทุกมัสยิดจะติดแอร์ และเปิดต้อนรับให้นอนกับเต็มมัสยิดเพื่อพักผ่อนและอิบาดะฮฺกันอย่างเต็มที่ เมื่อถึงเวลาเย็นไม่ร้อนมากแล้วก็มีการจัดอาหารเลี้ยงตามมัสยิด รวมถึงตามข้างทาง ร้านค้า หรือบ้านคนรวยก็เลี้ยงละศิลอดแบบชนิดที่ว่าไม่ต้องรู้จักกันเลย ก็รู้ใจ ขออัลลอฮฺ (สุบหฺ) ทรงตอบรับอามั้ลและอิบาดะฮฺของเราทุกคน
บรรยากาศเดือนรอมฎอนในซูดาน เรียกได้ว่าครึกครื้นมาก มัสยิดแต่ละหลังจะมีการสรรหาอิมามเสียงดีมาให้ญะมาอะฮฺฟังกันอย่างเต็มที่ซึ่งจะประจำตามที่ต่างๆ บางกลุ่มก็รวมตัวกันละหมาดกันข้างถนน นำเสื้อมาปูและหินตั้งเขตนิดหน่อย ก็ได้ลานละหมาดแล้ว ไม่มีการแบ่งแยกคนขาว ดำ จน รวย นี่แหละดินแดนมุสลิม ยิ่งในช่วงสิบคืนสุดท้าย คนห้าร้อยหกร้อยคนมาละหมาดตะฮัดญุดกันทุกมัสยิด บางทีก็พาลูก หลาน มาด้วย พอละหมาดเสร็จ ก็ยัง ทบทวนอัลกุรอาน (คุณจะพบว่าเด็กเล็กๆ สามารถท่องจำอัลกุรอาน หรือถือหนังสือตัฟซีรไปมา ) นอกจากนี้ บางมัสยิดก็จะมีการบรรยายหลังละหมาดญะมาอะฮฺ และร่วมกันแสวงหาลัยล์ละตุลก็อดรฺ ซึ่งอีกหลายบรรยากาศมากมายที่ต้องมาสัมผัส
ครับ ... วันนี้ คงต้องต่อในเรื่องการดำเนินการต่อหลังจากได้เกาะบูล (ใบตอบรับ) เพื่อให้ข้อมูลในส่วนของการดำเนินการต่อหลังจากได้เกาะบูล ด้วยการจัดการสองเรื่องก่อนการจองตั๋วหรือซื้อตั๋วเครื่องบินแบบประเภทไปอย่างเดียว (ยังไม่ต้องซ้อแบบไป-กลับนะครับ เพราะจะได้ไม่ซื้อผิด ถ้ามาแล้วจะกลับค่อยว่ากัน) ได้แก่ 1) เรื่องการทำวีซ่า และ 2) เรื่องการขอตรารับรองหนังสือจาก สนง.จุฬา (สำหรับเอกสารที่แปลหรือเป็นภาษาอาหรับทุกอย่าง) ต้องพาตัวจริงไปทุกที่เสมอ (อย่าลืมว่าต้นฉบับและถ่ายเอกสารเก็บไว้ในซองเดียวกันเลย จะได้ไม่ต้องย้อนกลับบ้านเสียเวลา) หลังจากนั้น ไป กงสุลระหว่างประเทศ ตั้งอยู่แถวแจ้งวัฒนะ เพื่อให้ปั้มตรายืนยันสำหรับเอกสารที่เกี่ยวข้องกับทางราชการทุกใบ เช่น ใบเกิด ใบจบ ผลการเรียน และที่แปลภาษาอาหรับซึ่งได้ปั้มมาแล้วจาก สนง.จุฬาราชมนตรี
สำหรับการทำวีซ่าอาจดำเนินการหลังจากเสร็จการรับรองเอกสารจะดีมากหรือตามสะดวก เนื่องจาก ถ้าเกิดวีซ่าออกให้แล้วจะมีกำหนดระยะเวลาให้เดินทางออกนอกประเทศได้ภายใน 30 วัน แต่ถ้าช้า เกินวัน ก็ต้องกลับไปทำวีซ่าใหม่ ซึ่งนักศึกษาที่นี้จะรู้ดีว่าไม่คุ้มเลย สถานที่ทำวีซ่าของซูดานมีสองที่ที่ทราบ คือ ที่ไทย 1 ที่ (เป็นกงสุลเฉพาะของประเทศซูดาน ตั้งอยู่ที่ อาคาร 1023 GTS แถวพัฒนาการ แขวง/เขตสวนหลวง) ผมเองก็ยังไม่ได้ไปที่นี้ แต่มีเพื่อนบอกมาว่าทำเรื่องยาก ส่วนที่ที่ 2 ตั้งอยู่ที่ Embassy of the Republic of the Sudan No. 2 & 2A Persiaran Ampany Off jalan Ru 55000 Kuala Lumpur or P.O.Box 12591 MALAYSIA. Tel. (603) 4256-9104, 4251-6054, 4252-5631 Fax. (603) 4256-8107 ตั้งอยู่ที่มาเลเซีย ถ้าต้องไปเองก็ให้เตรียมตัวพักด้วยอย่างน้อยต้องรอหนึ่งคืน (หรือถามรุ่นพี่ทางนี้ดูว่าฝากใครทำได้บ้าง) เตรียมค่าวีซ่าด้วยนะครับ เหมารวมค่าเดินทางด้วยรถไฟนะครับ ไม่เกิน 5,000-6,000 บาท อินชาอัลลอฮฺ
หลังจากได้เดินเรื่องทั้งสองอย่างครบเสร็จแล้ว ที่นี้ก็เตรียมใจขอดุอาอฺ และแจ้งญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงทราบช่วยกันขอดุอาอฺ และเตรียมการเดินทางได้เลย ส่วนเรื่องของใช้และอาหารที่จำเป็นต้องพามานั้น ก็ให้ถามจากรุ่นพี่ได้ แต่อย่าลืมตั้งเจตนาที่ดี เพื่อมาศึกษา เรียนรู้ และนำกลับไปสู่สังคมมุสลิมบ้านเรา อินชาอัลลอฮฺ แบบทดสอบมากมายที่กำลังรอคุณอยู่ ... ก็จะเป็นตัวชี้วัดความพยายามและความตั้งใจของคุณ ซึ่งถือเป็นพระประสงค์จากอัลลอฮฺ (สุบหฺฯ) และ เราคงได้พบกัน ...อินชาอัลลอฮฺ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น