{وَأَحْسِنُوَاْ إِنَّ اللّهَ يُحِبُّ الْمُحْسِنِينَ }

ความว่า และจงทำดีเถิด แท้จริงอัลลอฮฺ นั้นทรงชอบผู้กระทำดีทั้งหลาย (อัลบะเกาะเราะฮฺ : 195)




2/12/2554

ความรักในอิสลาม

بسم الله الرحمن الرحيم
الحب في الإسلام
ความรักในอิสลาม
د. مهران ماهر عثمان
สรุปบางส่วนจากบทความของ ดร.มะฮฺรอน มาฮิร อุษมาน

ความรัก คือ พลังอานุภาพยิ่งใหญ่ ให้มนุษย์มีความสุข คือคุณลักษณะที่ลูกหลานนบีอาดำทุกคนติดตัวมา เช่นเดียวกับ ความปราถนา ความพอใจ ความดีใจ ความหลงใหล ความโกรธ ความเกลียดชัง ความเศร้าโศก ความเสียใจ และอื่นๆ ความรักจึงมีความเกี่ยวพันธ์กับจิตใจ (นัฟซู) ของมนุษย์ อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเป็นสิ่งที่สร้างความเบิกบานให้ชีวิต และจิตใจ
ความรักตามหลักการของศาสนาอิสลาม มีหลากหลายรูปแบบ ส่วนหนึ่งได้แก่

1. (حب الله ورسوله صلى الله عليه وسلم) ความรักต่ออัลลอฮฺ (ซุบหฺฯ) และเราะสูล (ศ็อลฯ)
ความรักนี้เป็นหน้าที่(วาญิบ) สำหรับทุกคนต้องมี ดังที่อัลลอฮฺ (ซุบหฺฯ) ได้ทรงตรัสสั่งในอัลกุรอานไว้ว่า

قُلْ إِن كَانَ آبَاؤُكُمْ وَأَبْنَآؤُكُمْ وَإِخْوَانُكُمْ وَأَزْوَاجُكُمْ وَعَشِيرَتُكُمْ وَأَمْوَالٌ اقْتَرَفْتُمُوهَا وَتِجَارَةٌ تَخْشَوْنَ كَسَادَهَا وَمَسَاكِنُ تَرْضَوْنَهَا أَحَبَّ إِلَيْكُم مِّنَ اللّهِ وَرَسُولِهِ وَجِهَادٍ فِي سَبِيلِهِ فَتَرَبَّصُواْ حَتَّى يَأْتِيَ اللّهُ بِأَمْرِهِ وَاللّهُ لاَ يَهْدِي الْقَوْمَ الْفَاسِقِينَ) التوبة (24:

ความว่า “จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า หากบรรดาบิดาของพวกเจ้า และบรรดาลูก ๆ ของพวกเจ้า และบรรดาพี่น้องของพวกเจ้า และบรรดาคู่ครองของพวกเจ้า และบรรดาญาติของพวกเจ้า และบรรดาทรัพย์สมบัติที่พวกเจ้าแสวงหาไว้ และสินค้าที่พวกเจ้ากลัวว่าจะจำหน่ายมันไม่ออก และบรรดาที่อยู่อาศัยที่พวกเจ้าพึงพอใจมันนั้น เป็นที่รักใคร่แก่พวกเจ้ายิ่งกว่าอัลลอฮฺ และร่อซูลของพระองค์ และการต่อสู้ในทางของพระองค์แล้วไซร้ ก็จงรอคอยกันเถิดจนกว่าอัลลอฮฺจะทรงนำมาซึ่งกำลัง ของพระองค์ และอัลลอฮฺนั้นจะไม่ทรงนำทางแก่กลุ่มชนที่ละเมิด” อัตเตาบะฮ์ : 24

ท่านเราะสูล (ศ็อลฯ) ได้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในเรื่องความรักรูปแบบนี้ว่า

لَا يُؤْمِنُ أَحَدُكُمْ حَتَّى أَكُونَ أَحَبَّ إِلَيْهِ مِنْ وَلَدِهِ وَوَالِدِهِ وَالنَّاسِ أَجْمَعِين) البخاري ومسلم)

แปลว่า “คนหนึ่งในหมู่พวกเจ้าจะยังไม่เป็นผู้ศรัทธาจนกว่าฉัน(หมายถึงนะบี)จะเป็นที่รักสำหรับเขายิ่งกว่าบิดามารดาของเขา บุตรของเขา และมนุษย์ทั้งหมด ”

2. (حب شرع الله) ความรักต่อข้อบัญญัติของอัลลอฮฺ (ซุบหฺฯ)
ความจริงผู้ทรงอภิบาล (อัลลอฮฺ ซุบหฺฯ) ได้ทรงทำให้เราทุกคนทราบดีแล้ว ในคัมภีร์ของพระองค์ ว่า แท้จริงส่วนหนึ่งจากบรรดาคุณลักษณะของบรรดาผู้ปฏิเสธอิสลาม คือ พวกเขาไม่ยินดีต่อบทบัญญัติของอัลลอฮฺ (ซุบหฺฯ) ทำให้ความดีงามของเขาสูญหายไปเนื่องมาจากการไม่ยอมรับหลักการของพระองค์ดังที่ได้ตรัสไว้ ว่า

وَالَّذِينَ كَفَرُوا فَتَعْسًا لَهُمْ وَأَضَلَّ أَعْمَالَهُمْ* ذَلِكَ بِأَنَّهُمْ كَرِهُوا مَا أَنْزَلَ اللَّهُ فَأَحْبَطَ أَعْمَالَهُمْ (سورة محمد 8-9)

ความว่า “และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธานั้น ความพินาศหายนะจะได้แก่พวกเขาและพระองค์ได้ทรงทำให้การงานของพวกเขาไร้ผล ทั้งนี้เพราะว่า พวกเขาเกลียดชังสิ่งที่อัลลอฮ.ทรงประทานลงมา พระองค์จึงทรงทำให้การงานของพวกเขาไร้ผล ” มุหัมมัด : 8-9

3. (حب الزوجة) ความรักต่อภารยา (และระหว่างคู่สมรส)
ท่านอัมรฺ บิน อาศ (รฎ.) ได้กล่าวว่า ท่านเคยถามท่านเราะสูล (ศ็อลฯ)ถึงบุคคลที่ท่านเราะสูล (ศ็อลฯ) รักมากที่สุด ท่านกล่าวว่า

يَا رَسُولَ اللَّهِ مَنْ أَحَبُّ النَّاسِ إِلَيْكَ؟ قَالَ: «عائشة» ( الترمذي).
แปลว่า “โอ้ท่านเราะสูล ใครคือบุคคลที่ท่านรักมากที่สุด ? ท่านกล่าวว่า “อาอิชะฮฺ””

4. (محبة الإخوان) ความรักต่อครอบครัว พ่อ แม่ พี่น้อง เครือญาติ และเพื่อนฝูง
จากหะดีษที่ผ่านมาจะพบว่าหลังจากนั้นท่านอัมรฺ บิน อาศ ได้ถามต่อว่า แล้วใครคือบุคคลที่ท่านรักนอกจากบรรดาเศาะหาบะฮฺ

فمِن الرجال؟ قال: «أبوها».
ท่านกล่าวว่า “พ่อของนาง”

ท่านอบูบักร คือบุคคลที่ท่านเราะสูล (ศ้อลฯ) เคยกล่าวถึงไว้ว่าความเป็นเพื่อนสนิทนี้เป็นระดับที่สูงถึงขั้นมีความรัก

«وَلَوْ كُنْتُ مُتَّخِذًا خَلِيلًا مِنْ أُمَّتِي لَاتَّخَذْتُ أَبَا بَكْرٍ»( رواه البخاري ومسلم)..

แปลว่า “และถ้าหากฉันเลือกเอาเพื่อนสนิทคนหนึ่ง คนใด จากประชาชาติของฉันแล้ว แน่นอน ฉันต้องเอา อบูบักร เป็นเพื่อน”

และท้ายที่สุดแล้วความรักเป็นเหตุให้เข้าสรวงสวรรค์ ดังที่ท่านเราะสูล (ศ็อลฯ) ทรงกล่าวว่า

لا تدخلوا الجنة حتى تؤمنوا، ولا تؤمنوا حتى تحابوا، أولا أدلكم على شيء إذا فعلتموه تحاببتم؟ أفشوا )السلام بينكم (مسلم
แปลว่า “พวกท่านจะไม่ได้เข้าสวรรค์จนกว่าพวกท่านจะศรัทธา และพวกท่านจะไม่ศรัทธาจนกว่าพวกท่านจะรักซึ่งกันและกัน เอาหรือไม่ฉันจะแนะนำพวกเจ้าสิ่งหนึ่งเมื่อพวกเจ้าปฏิบัติแล้วพวกเจ้าจะมีความรักซึ่งกันและกัน จงให้สลามแก่กันและกัน”

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://www.saaid.net/Doat/mehran/64.htm

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อชี้ขาดเรื่องการจัดงานฉลองเนื่องจากความรัก
حكم الاحتفال به : انظر -غير مأمور- لحكم الاحتفال بأعياد المشركين المقال الموصل إليه الرابط التالي:
http://saaid.net/Doat/mehran/030.doc

2/08/2554

อธิบายหุก่ม (ข้อชี้ขาด) และความประเสริฐเรื่องการดะอฺวะฮ์ในอิสลาม

อธิบายหุก่ม (ข้อชี้ขาด) และความประเสริฐเรื่องการดะอฺวะฮ์ในอิสลาม

ความจริงแล้วมีหลักฐานมากมายจากอัลกุรอานและอัลหะดีษที่ชี้ให้เห็นว่า การดะอฺวะฮ์ นี้ เป็นงานที่เป็นฟัรฎู (บังคับ) เหนือมุสลิมทุกคน ส่วนหนึ่งได้แก่ หลักฐานจากคำตรัสของอัลลอฮฺ (ซุบหฺฯ) ที่ว่า

( وَلْتَكُنْ مِنْكُمْ أُمَّةٌ يَدْعُونَ إِلَى الْخَيْرِ وَيَأْمُرُونَ بِالْمَعْرُوفِ وَيَنْهَوْنَ عَنِ الْمُنْكَرِ وَأُولَئِكَ هُمُ الْمُفْلِحُونَ ) [سورة آل عمران: 104] ،

ความว่า “และจงให้มีขึ้นจากพวกเจ้า ซึ่งคณะหนึ่งที่จะเชิญชวนไปสู่ความดีและใช้ให้กระทำสิ่งที่ชอบ และห้ามมิให้กระทำสิ่งที่มิชอบและชนเหล่านี้แหละพวกเขาคือผู้ได้รับความสำเร็จ”

( ادْعُ إِلَى سَبِيلِ رَبِّكَ بِالْحِكْمَةِ وَالْمَوْعِظَةِ الْحَسَنَةِ وَجَادِلْهُمْ بِالَّتِي هِيَ أَحْسَنُ ) [سورة النحل 125]

ความว่า “จงเรียกร้องสู่แนวทางแห่งพระเจ้าของสูเจ้าโดยสุขุม และการตักเตือนที่ดี และจงโต้แย้งพวกเขาด้วยสิ่งที่ดีกว่า(*1*) ”
(1) คือด้วยเหตุผลและหลักฐาน ด้วยความอ่อนโยนและสุภาพ

และจากคำสั่งใช้ของพระองค์อีกหลายแห่งในอัลกุรอาน

( وَادْعُ إِلَى رَبِّكَ وَلا تَكُونَنَّ مِنَ الْمُشْرِكِينَ ) [سورة القصص: 87]

ความว่า “และจงเชิญชวนไปสู่พระเจ้าของเจ้าและอย่าอยู่ในหมู่ผู้ตั้งภาคี(*2*)”
(2) อย่าไปให้ความสนใจและอย่าไปฟังคำพูดของพวกมุชริกีน มิฉะนั้นแล้วจะทำให้เจ้าาหันเหจากการปฏิบัติตามสิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประทานให้แก่เจ้า คือโองการทั้งหลายอันชัดแจ้ง แล้วจงเรียกร้องเชิญชวนมนุษย์ไปสู่ความเป็นเอกภาพ และอิบาดะฮ์ต่อพระองค์และอย่าได้เห็นคล้อยตามกิเลสของพวกเขา เพราะว่าผู้ใดที่พอใจต่อแนวทางของพวกเขา ก็จะอยู่ในจำพวกเขา

( قُلْ هَذِهِ سَبِيلِي أَدْعُو إِلَى اللَّهِ عَلَى بَصِيرَةٍ أَنَا وَمَنِ اتَّبَعَنِي ) [سورة يوسف: 108]
ความว่า “จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด “นี่คือแนวทางของฉัน(*3*) ฉันเรียกร้องไปสู่อัลลอฮ์อย่างประจักษ์แจ้งทั้งตัวฉันและผู้ปฏิบัติตามฉัน ”
(3) เป็นแนวทางที่ชัดแจ้งเที่ยงตรง ไม่คดเคี้ยว ปราศจากการเคลือบแคลงและการสงสัยใดๆทั้งสิ้น

อัลลอฮฺ (ซุบหฺฯ) ได้ทรงอธิบายให้ทราบว่า แท้จริงบรรดาผู้เจริญรอยตามท่านเราะสูล (ศ็อลฯ) คือ บรรดานักดาอีย์เพื่อศาสนาของพระองค์ ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่าการเจริญรอยตามท่านเราะสูล (ศ็อลฯ) ถือเป็นวาญิบ แก่ทุกคน ดังที่ได้ตรัสไว้ว่า

لَقَدْ كَانَ لَكُمْ فِي رَسُولِ اللَّهِ أُسْوَةٌ حَسَنَةٌ لِمَنْ كَانَ يَرْجُو اللَّهَ وَالْيَوْمَ الْآخِرَ وَذَكَرَ اللَّهَ كَثِيرًا [سورة الأحزاب: 21]

ความว่า “โดยแน่นอน ในร่อซูลของอัลลอฮฺมีแบบฉบับอันดีงามสำหรับพวกเจ้าแล้ว (*4*) สำหรับผู้ที่หวัง (จะพบ) อัลลอฮฺและวันปรโลกและรำลึกถึงอัลลอฮฺอย่างมาก”
(4) คือแบบฉบับอันสูงส่งที่จำเป็นต้องปฏิบัติตามในทุกคำพูด การปฏิบัติ และสถานะ เพราะท่านมิได้พูดและปฏิบัติตามอารมณ์ หากแต่เป็นวะฮียฺและการประทานให้ลงมา

บรรดานักวิชาการ ได้ชี้แจงเรื่อง การดะอฺวะฮฺ นี้ไว้ว่าเป็นเรื่อง ฟัรฎู กิฟาญะฮฺ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามพื้นที่ต่างๆจะต้องมีการดะอฺวะฮฺ หากในพื้นที่ใดมีผู้หนึ่งทำการดะอฺวะฮฺ เชิญชวนเพื่อนมนุษย์สู่ความดีงาม สมาชิกในสังคมที่เหลืออยู่ก็เท่ากับพ้นข้อบังคับนั้นด้วย ซึ่งทำให้การดะอฺวะฮฺนั้นเป็นเรื่องของ สุนนะฮฺ มุอักกะดะฮ (งานที่ส่งเสริมให้กระทำสม่ำเสมอ) เป็นการงานที่ดีและได้รับผลบุญ ในทางตรงกันข้าม หากไม่มีใครทำการดะอฺวะฮ์เชิญชวนกันในเรื่องความดีแล้ว การดะอฺวะฮ์ก็จะถือเป็นเรื่อง วาญิบ สำหรับสมาชิกในสังคมทุกคน อย่างไรก็ตามการดะอฺวะฮ์ก็ถือเป็นเรื่องที่ที่มุสลิมทุกคนต้องกระทำตามความสามารถของตน...

(ติดตามความประเสริฐของการดะอฮฺวะฮ์ในโอกาสต่อไป อินชาอัลลอฮ์)

ที่มา : http://imams4.com/vb/showthread.php?p=50#post50
فتاوى إبن باز - الدعوة إلى الله وأخلاق الدعاة
المصدر:منبر سماحة الشيخ الإمام عبد العزيز بن باز رحمه الله

2/05/2554

แนวทางการปลูกฝังอัคลากฺในอิสลาม

السلام عليكم ورحمة الله وبركاته

ขอความเมตตาจากอัลลอฮฺ (ซุบหฺฯ) ผู้ทรงประทานเวลาและชีวิตที่ได้รับการรับรองด้วยสรวงสวรรค์ได้ประสบแด่ท่านทั้งหลาย
การใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันนี้ เต็มไปด้วยความสับสนและการปะปนกันระหว่างสิ่งที่ยั่วยุและนำพาให้ห่างไกลจากศาสนา แต่จะมีเพียงไม่กี่คนเท่านนั้นที่พวกเขารวมกลุ่มเป็นญะมาอะฮฺที่ชักชวนกันสู่ความดีงาม
วันนี้ผมมีเวลาและมีโอกาสจะนำเสนอสาระวิชาการดีๆบางส่วนที่ได้รวบรวมจากการศึกษาเกี่ยวกับแนวทางการปลูกฝังอัคลากฺในอิสลาม โดยเฉพาะเรื่องของคุณลักษณะที่สำคัญซึ่งผู้ปลูกฝังอัคลากฺต้องมี ดังที่ Hฺadฺat bint Muhฺammad bin Falihฺ al- Zฺaghīr (2008:181-190) ได้เสนอคุณลักษณะดังกล่าวไว้ในหนังสือที่มีชื่อว่า “ مَعَ الْأَطْفَالِ تَرْبَوِيًّا e تَعَامُلُ الرَّسُوْلِ” (การปฏิบัติตนของท่านเราะสูล (ศ็อลฯ) ในการปลูกฝังเยาวชน) ไว้ 5 ด้าน ดังนี้

1) ความบริสุทธิ์ใจ (اَلإِخْلِاصُ)
ความบริสุทธิ์ใจ เป็นคุณลักษณะแรกที่ผู้ศรัทธาทุกคนต้องมี ในทุกกิจการงานที่ดี ผู้ปลูกฝังอัคลากฺจะต้องใช้ความบริสุทธิ์ในการสอน และการเป็นแบบอย่าง เนื่องจากเป็นหลักสำคัญที่อัลลอฮฺ I ได้ทรงสั่งใช้ผู้ศรัทธา ในการประกอบความดีงาม เพื่อแสวงหาการตอบแทนผลบุญจากพระองค์
อัลลอฮฺ I ได้ตรัสไว้ว่า

(وَمَا أُمِرُوا إِلَّا لِيَعْبُدُوا اللَّهَ مُخْلِصِينَ لَهُ الدِّينَ ) (البينة:5)

ความว่า “และพวกเขามิได้ถูกบัญชาให้กระทำอื่นใดนอกจากเพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ (ซุบหฺฯ) เป็นผู้มีเจตนาบริสุทธิ์ในการภักดีต่อพระองค์” (อัลบัยยินะฮฺ:5)

2) ความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ (ซุบหฺฯ) (اَلتَّقْوَى)
อิสลามได้เน้นย้ำให้ผู้ศรัทธาทุกคนมีความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ (ซุบหฺฯ) ด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งใช้และห่างไกลจากคำสั่งห้าม โดยเฉพาะความยำเกรงเป็นคุณลักษณะสำคัญในการสอนและการเตือนผู้อื่น ซึ่งบุคคลที่มีความยำเกรงมากที่สุดคือผู้ที่มีเกียรติสูงสุดในหมู่ผู้ศรัทธา
อัลลอฮฺ (ซุบหฺฯ) ได้ตรัสไว้ว่า

(يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا اتَّقُوا اللَّهَ وَقُولُوا قَوْلًا سَدِيدًا ) (الأحزاب:70)

ความว่า “โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ! จงยำเกรงอัลลอฮฺ (ซุบหฺฯ) และจงกล่าวถ้อยคำที่เที่ยงธรรมเถิด ” (อัลอะหฺซฺาบ:70)

และจากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ (รฎ.) ได้กล่าวว่า ท่านเราะสูล (ศ็อล) ทรงกล่าวว่า

(( قِيلَ يَا رَسُولَ اللَّهِ مَنْ أَكْرَمُ النَّاسِ قَالَ أَتْقَاهُمْ ))

ความว่า “ได้มีผู้หนึ่งกล่าวว่า โอ้ท่านเราะสูลของอัลลอฮฺ บุคคลใดที่มีเกียรติมากที่สุดในหมู่มนุษย์ ท่านกล่าวว่า ผู้ที่มีความยำเกรงมากที่สุดในหมู่พวกเขา ” หะดีษบันทึกโดย al-Bukhariy หะดีษหมายเลข 3353,3490

3) ความรอบรู้ (اَلْعِلْمُ)
การแสวงหาความรู้ให้รอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้ที่สำคัญในสองด้าน ได้แก่ หนึ่ง ความรู้เรื่องหลักการสอนและการปลูกฝังอัคลากฺ และสอง ความรู้เรื่องหะล้าล (حَلَالٌ) สิ่งที่ศาสนาอนุมัติ และหะรอม (حَرَامٌ) สิ่งที่ศาสนาห้าม ซึ่งเป็นเรื่องที่ทราบแน่นอนว่าผู้มีความรอบรู้กับผู้ที่ขาดความรู้ไม่มีความเท่าเทียมกัน ดังที่อัลลอฮฺ (ซูบหฺฯ) ได้ตรัสไว้ว่า

( قُلْ هَلْ يَسْتَوِي الَّذِينَ يَعْلَمُونَ وَالَّذِينَ لَا يَعْلَمُونَ ) (الزمر:9)

ความว่า “จงกล่าวเถิดมุหัมมัด บรรดาผู้รู้และบรรดาผู้ไม่รู้จะเท่าเทียมกันหรือ? แท้จริงบรรดาผู้มีสติปัญญาเท่านั้นที่จะใคร่ครวญ” (อัซฺซุมัร:9)

4) ความสุภาพ (اَلْحِلْمُ)
ความสุภาพของบุคคลสามารถการสร้างความดึงดูด ความน่าสนใจ การยอมรับ และการปฏิบัติตาม ยิ่งไปกว่านั้น จะเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ ให้แก่ผู้รับการปลูกฝังอัคลากฺ ซึ่งอัลลอฮฺ (ซูบหฺฯ) ได้ทรงใช้ให้ท่านเราะสูล e ตอบโต้ผู้ปฏิเสธด้วยความสุภาพ และการใช้หลักเหตุผลในการเชิญชวนพวกเขาสู่ศาสนาของพระองค์
อัลลอฮฺ (ซูบหฺฯ) ได้ตรัสว่า

( ادْفَعْ بِالَّتِي هِيَ أَحْسَنُ ) (فصلت:34)

ความว่า “เจ้าจงขับไล่ (ความชั่ว) ด้วยสิ่งที่มันดีกว่า” (ฟุศฺศิลัต:34)

และท่านเราะสูล e ได้เคยกล่าวแก่ ท่านอับดุลก็อยซฺ t เกี่ยวกับคุณลักษณะที่มีอยู่ในตัวของเขาว่า

(( إِنَّ فِيكَ خَصْلَتَيْنِ يُحِبُّهُمَا اللَّهُ الْحِلْمُ وَالأَنَاةُ ))

ความว่า “แท้จริงในตัวของท่านนั้น มีสองสิ่งที่อัลลอฮฺ (ซุบหฺฯ) ทรงรัก คือ ความสุภาพและความอดทน” หะดีษบันทึกโดย Muslim หะดีษหมายเลข 126 ,al- Tirmidhiy :2011

5) ความรู้สึกรับผิดชอบ (اَلإِسْتِشْعَارُ بِالْمَسْؤُولِيَّةِ)
คุณลักษณะสำคัญของผู้ปลูกฝังอัคลากฺในอิสลาม นอกจากผู้ปลูกฝังจะมีความบริสุทธิ์ใจ ความยำเกรง ความสุขุม และเข้าใจวิธีการและแนวทางการปลูกฝังแล้ว ผู้ปลูกฝังมีความตระหนักอยู่เสมอว่า เป็นหน้าที่ที่ได้รับการตอบแทนความดีงาม และจะต้องถูกสอบสวนในโลกหน้า
อัลลอฮฺ (ซุบหฺฯ) ได้ตรัสว่า

(وَلَتُسْأَلُنَّ عَمَّا كُنتُمْ تَعْمَلُونَ ) (النحل:93)

ความว่า “และแน่นอนพวกเจ้าจะถูกสอบสวนถึงสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำไว้” (อันนะหฺลุ:93)

และท่านเราะสูล (ศ็อลฯ) ได้กล่าวถึงการตอบแทนความดีงาม ส่วนหนึ่งได้แก่การได้รับผลบุญเช่นเดียวกับผู้ปฏิบัติตามความดีงามนั้น


ท่านเราะสูล (ศ็อลฯ) ทรงกล่าวว่า

(( مَنْ دَلَّ عَلَى خَيْرٍ فَلَهُ مِثْلُ أَجْرِ فَاعِلِهِ ))

ความว่า “ใครก็ตามที่ชี้นำความดี (ให้ผู้อื่น) สำหรับเขาจะได้รับการตอบแทนความดี เช่นเดียวกับผู้ปฏิบัติความดีนั้น” หะดีษบันทึกโดย Muslim หะดีษหมายเลข 5007 , abū Dawūd:5131, al- Tirmidhiy :2671, Ibn Hanbal :17125 .22393 . 22405

ที่มา : Hฺadฺat bint Muhฺammad bin Falihฺ al- Zฺaghīr (2008). Ta‘aamul al-Rasūl  ma‘a al-Atฺfal Tarbawīyan ( مع الأطفال تربويا  تعامل الرسول) .Qatฺar : Dār al-Kutฺub al- Qatฺarīyat.