السلام عليكم ورحمة الله وبركاته
มวลการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิแด่ผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก
เรามักจะได้ยินเสมอว่าคุณลักษณะของผู้นำที่ดี ก็คือคุณลักษณะของท่านเราะสูล (ศ็อลฯ) ดังในอายะฮฺที่อัลเลาะห์ (ซุบหานะฮูวะตะอาลา) ได้ทรงประทานไว้ในซูเราะห์อัลอะห์ซาบ อายะฮฺที่ 21 ซึ่งยืนยันเห็นชัดเจนว่า ต้นฉบับต่างๆไม่ว่าจะด้านใดๆก็ตาม เราสามารถดูและศึกษาจากท่านเราะสูล (ศ็อลฯ)
** لَقَدْ كَانَ لَكُمْ فِي رَسُولِ اللَّهِ أُسْوَةٌ حَسَنَةٌ **
ความว่า : “โดยแน่แท้แล้วแบบอย่างที่ดีแก่เจ้าทั้งหลาย มีอยู่ในเราะสูลของอัลเลาะห์”
ส่วนหนึ่งจากมุมมองของนักวิชาการอิสลามหลายๆท่าน แสดงให้เห็นว่าคู่มือสำคัญสำหรับการเป็นผู้นำที่ดี คือต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติสามประการ คือ หนึ่ง เป็นผู้มีจริยธรรม (อีหม่าน) และศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า สอง เป็นผู้มีความรอบรู้ (อิลมู) และสามมีความรับผิดชอบ (อามานะห์)
แต่สำหรับผมแล้วคำว่าผู้นำในอุดมคติ คือผู้นำที่เข้าใจความเป็นมนุษย์ และด้วยบทความนี้น่าจะตอบคำถามให้เราทราบว่าความเป็นมนุษย์คืออะไร มีอะไรบ้าง และสำคัญอย่างไรต่อบทบาทของผู้นำ
ความเป็นมนุษย์หรือตัวตนของมนุษย์คือสัญชาตญาณ ความคิดความรู้สึก พฤติกรรม การพูด การยอมรับ การกระทำ ความต้องการ หรืออารมณ์ และอะไรอีกมายมายที่เราเห็นได้จากมนุษย์
คนหนึ่งจะสามารถนำคนอื่นได้ดีนั้น เขาจะต้องเข้าใจถึงตัวตนของคน โดยเฉพาะกับองค์ประกอบทั้งสาม อันได้แก่ จิตวิญญาณ สติปัญญา และร่างกาย การเข้าใจนี้เอง จะทำให้เขาสามารถนำผู้ตามของเขาได้โดยง่ายดาย และเขาจะเป็นที่ยอมรับเชื่อฟัง ปฏิบัติตามตามความต้องการของกลุ่ม
จิตวิญญาณของคนเป็นสิ่งแรกที่ผู้นำต้องทำความเข้า เราจะเห็นได้ว่าในการบริหารจัดการส่วนใหญ่ ผู้นำมักจะขาดความเข้าใจในส่วนนี้ เนื่องจากว่ามีความเชื่อว่า วัตถุมีความสำคัญมากกว่า การให้เลื่อนตำแหน่ง หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่จะมัดใจสมาชิกของเขาด้วยกับค่านิยมถือว่าเป็นสิ่งที่เพียงพอแล้ว แต่ลืมนึกถึงความต้องการที่แท้จริงของจิตวิญญาณมนุษย์ ทั้งที่ความจริงแล้วในทางกลับกันจิตวิญญาณมีความสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด
การสร้างจิตวิญญาณร่วมของผู้นำ สามารถทำให้ผู้ร่วมงานเกิดความเป็นทีมได้อย่างลงตัว และร่วมมือกันด้วยความบริสุทธ์ใจ ซึ่งเราเห็นได้จากประวัติศาสตร์อิสลามในการเผยแพร่ศาสนาของท่านเราะสูล (ศ็อลฯ) โดยท่านเริ่มจากหลักการศรัทธา หลักความเชื่อมั่น มีวิธีการ รูปแบบชักจูงที่สามารถทำให้ผู้ถูกเรียกร้องเข้าร่วมอุดมการณ์ หรือแม้แต่ยอมเสียชีวิตตนเองเพื่อศาสนา
ส่วนหนึ่งจากวิธีการหนึ่งที่ท่านปลูกจิตวิญญาณบรรดามุสลิมให้เกิดความรู้สึกร่วมทางสังคม ดังหะดีษที่ได้รายงานโดยอบูมูซา อัลอัชอารีย์ ในหนังสือซอเหี๊ยะฮฺของท่านอิหม่ามอัลบุคอรี เลขที่ 2446 ว่า
(( المؤمن للمؤمن كالبنيان ، يشد بعضه بعضا . وشبك بين أصابعه ))
ความว่า : “ผู้ศรัทธาต่อผู้ศรัทธานั้น เปรียบเสมือนสิ่งก่อสร้างอันเดียวกัน ซึ่งบางส่วนนั้นจะยึดอยู่กับอีกบางส่วน แล้วท่านก็ได้เอานิ้วมือของท่านมาประสานกัน”
หากผู้นำเริ่มตระหนักจากจุดนี้ก่อน และเห็นคุณค่าในวิธีการดังกล่าวแล้ว แน่นอนผู้ตามจะมีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของกลุ่ม ให้ความสำคัญและตระหนักในหน้าที่ของตน ก่อเกิดมิตรภาพและความสามัคคี มุ่งมั่นแสวงความโปรดปรานจากอัลเลาะห์ (ซุบหานะฮูวะตะอาลา) มากกว่าเรื่องของเงิน และเรื่องผลประโยชน์ใดๆ ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น